แชร์ประสบการณ์การสร้างบ้าน 3 ปี แต่ยังไม่เสร็จ !!!

ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่าบ้านที่จขกท.กำลังจะนำเสนอนั้น เป็นบ้านที่ผมออกแบบให้ลูกค้าท่านหนึ่งที่ตจว.เมื่อต้นปี 57′ เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า เมื่อต้นปี 57′ ทางลูกค้าได้ติดต่อมาขอให้ออกแบบบ้านพักอาศัย 2 ชั้นหลังใหญ่หลังหนึ่งเพื่อรองรับสมาชิก 5คนด้วยกัน ทางผมก็ไม่รอช้า เมื่อนัดหมายวันเวลาได้ก็รีบบึ่งรถไปดูสถานที่ก่อสร้าง ทิศทางแดด,ลม พร้อมทั้งฟังสรุปความต้องการเพื่อนำมาออกแบบทันที ตามสัญญา ขอบเขตงานที่ตกลงว่าจ้างก็คือ ทางผมในฐานะสถาปนิกจะดำเนินการออกแบบ และจัดทำแบบก่อสร้างทั้งแบบสถาปัตยกรรม, แบบวิศวกรรมโครงสร้าง, ไฟฟ้า, ประปา ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมถึง BOQ. พร้อมทั้งเซ็นต์รับรองเพื่อที่เจ้าของจะสามารถนำไปขออนุญาติก่อสร้างได้ ส่วนในเรื่องการจัดหาผู้รับเหมา และการจัดหาสถาปนิกและวิศวกรสำหรับควบคุมงานในช่วงระหว่างก่อสร้าง ทางเจ้าของบ้านจะเป็นฝ่ายจัดหาเอง (เนื่องจากบ้านขนาดใหญ่เกิน 150 ตรม. จำเป็นต้องมีในส่วนนี้) เมื่อตกลงขอบเขตของงานกันได้ลงตัว ก็เซนต์สัญญาและเริ่มดำเนินการตามลำดับครับ
ในรูปเป็นสถานที่ก่อสร้าง ซึ่งเป็นสนามหญ้าโล่งๆ จะมีก็แต่กระถางต้นไม้จำนวนมากที่ต้องเคลียร์ออกก่อนการก่อสร้างเท่านั้นครับ
และแล้ว หลังจากปรับแบบอยู่รอบสองรอบ ก็ได้แบบที่ตรงความต้องการซะที แม้โดยส่วนตัวจขกท.จะชอบบ้านในสไตล์ลอฟท์เป็นพิเศษ แต่ในเมื่อเจ้าของบ้านชอบสไตล์บ้านจัดสรร เราก็ต้องเต็มที่กับบ้านจัดสรรหลังนี้ให้มีความพิเศษและตรงใจเจ้าของบ้านมากที่สุด เพราะปลูกบ้านต้องตามใจผู้อยู่ครับ
เวลาผ่านไปประมาณเดือนกว่าๆเกือบสองเดือนนับจากวันแรก ก็ถึงกำหนดเวลานัดส่งแบบก่อสร้างพร้อมลายเซ็นต์ ก็เป็นอันส่งเรียบร้อย ได้ค่าออกแบบมาครบถ้วน ^ ^ คิดในใจ “ก็เป็นอันว่าเราได้ทำหน้าที่ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว 99%” อีก 1% เป็นเรื่องของการช่วยคิดแก้ปัญหาในขณะก่อสร้างบ้านในกรณีที่เกิดปัญหาบางอย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน แม้ไม่ได้ระบุในสัญญา แต่เป็นเรื่องของจรรยาบรรณครับ ซึ่งทางจขกท.ก็เต็มใจอยู่แล้วในส่วนนี้
และแล้วไม่นานหลังจากนั้น ทางเจ้าของบ้านก็หาผู้รับเหมาได้ และบ้านก็เริ่มก่อสร้างตั้งแต่เดือนเมษายน 57′ เป็นต้นมาครับ

ขอบคุณเนื้อหา>>Web Pantip
ในช่วงแรกของการก่อสร้าง ดูเหมือนว่างานจะราบรื่นไปซะทุกอย่าง จากงานเสาเข็ม ฐานราก เสา คาน พื้น ไปจนถึงขั้นตอนการมุงหลังคา ซึ่งถึงแม้ผู้รับเหมาจะไม่มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับแบบก่อสร้างเลย แต่ทางผมก็ได้มีการเข้าไป brief งานให้ และแวะเวียนเข้าไปดูงานเป็นระยะ
หลังจากนั้นไม่นานหลังจากมุงหลังคาเสร็จ ก็เริ่มได้ยินเจ้าของบ้านบ่นให้ฟังว่าผรม. เข้ามาบ้าง ไม่เข้ามาบ้าง ทำๆหยุดๆ…. ผ่านไปปีนึงก็แล้ว ปีกว่าก็แล้ว บ้านก็ยังไม่เสร็จ ทางเจ้าของบ้านก็ไม่อยากจะเอาเรื่องเอาความอะไร เพราะก่อนหน้านี้เคยจ้างผรม.เจ้านี้สร้างโรงงานแล้วไม่เคยมีประวัติเบี้ยว
และแล้วก็ถึงเวลาที่จขกท.ต้องไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศสเพื่อเรียนปริญญาโทใบที่2 ซึ่งทางผมก็ยินดีเหมือนเดิมที่จะช่วยคิดแก้ปัญหา หากมีปัญหาเรื่องแบบ แม้ว่าตัวจะอยู่ไกลก็ตาม แต่ทุกอย่างก็ยังเป็นไปตามคาด คืองานก่อสร้างไม่มีปัญหาเรื่องแบบเลย จะมีก็แต่ปัญหาผรม.บูดๆเบี้ยวๆ โยกคนงานไปsiteนั้นsiteนี้ เหอๆ
เวลาผ่านไป ผมก็เรียนจนจบ กลับมาปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ใจก็นึกถึงบ้านหลังนี้ขึ้นมาทันที ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างน้า???!!! คิดได้ดังนั้นก็เลยหาโอกาสเข้าไปเยี่ยมเจ้าของบ้านหน่อยดีกว่า และแล้ว…..ก็ได้มีโอกาสถ่ายรูปบ้านหลังนี้มาอีกครั้งครับ ไปดูกันเลย
ภาพถ่ายด้านหน้าครับ เนื่องจากบ้านหลังนี้จะมีอาม่ามาอยู่ด้วย จึงออกแบบให้มีทางลาดสำหรับรถเข็น ซึ่งยังไม่ได้ติดราวจับสเตนเลส แต่ตัวบ้านเริ่มทาสีรองพื้นแล้ว
โถงทางเดินชั้น 2 ออกแบบ double space เพิ่มความโอ่โถง พร้อมทั้งดึงแสงทิศเหนือเข้ามาให้บ้านสว่าง แต่ไม่ร้อนครับ
รูปพื้นชั้น 2 เนื่องจากเจ้าของบ้านสะสมไม้ประดู่ไว้เยอะ จึงอยากได้เป็นพื้นชั้นบน จขกท.ก็ไม่ขัดข้องครับ ออกแบบให้ฝังพุกไม้ไว้ในพื้นคอนกรีตปรับระดับ แล้วติดไม้ประดู่ทับด้านบนครับ (วิธีนี้ใช้ได้เฉพาะกับพื้นภายในอาคารเท่านั้น แต่ห้ามนำไปใช้สำหรับพื้นที่อยู่ภายนอกอาคารที่โดนแดดโดนฝนนะครับ ไม่งั้นพื้นบวม)
ที่อยู่ไกลๆนั่นคือโรงรถครับ แรกเริ่มเดิมทีออกแบบไว้ฝั่งเดียว ทีนี้เจ้าของบ้านขอไปขยายเพิ่มอีกฝั่ง ก็ไม่ว่ากันครับ
พื้นระเบียงชั้น 2 ครับ มีแผงระแนงสำหรับซ่อน condensing แอร์
ห้องครัวก็ยังไม่เสร็จ
แผงไฟฟ้า ก็เดินสายไฟไว้โอเคอยู่นะ แต่…ไม่เสร็จอ่า
ช่องท่อสำหรับรองรับการ maintenance ระบบประปา เริ่มมีหยากไย่ขึ้นแล้วครับ เหอๆ
โถงบันไดครับ ก็ยังค้างๆคาๆอยู่ไม่ต่างจากส่วนอื่น
จะว่าไปแล้ว งานที่เหลืออยู่นี่ก็ไม่ได้มากมายอะไรเลยนะครับ ถ้าระดมทำ ไม่น่าเกิน 2-3เดือนก็น่าจะเสร็จแล้ว เพราะที่เหลือส่วนมากจะเป็นงาน finishing,งานติดประตู-หน้าต่างที่เหลือให้ครบ, งาน hardscape และงานเก็บสี แต่จากการสอบถามจากเจ้าของบ้านในวันนั้นทำให้ได้รับคำตอบว่า ณ บัดนี้ ผรม.ที่เคยทำได้หายตัวไปแล้ว ไม่กลับมานานแล้ว หลังจากที่ขอเบิกเงินค่างวด advanceไปก่อนงวดนึง ผมถึงกับอึ้งกับคำตอบ แต่ในใจก็รู้สึกเห็นใจเจ้าของบ้านที่รอมา 3 ปีกว่าแล้วยังไม่ได้เข้าอยู่ ตัวจขกท.ก็ยังไม่มีโอกาสได้เห็นบ้านที่แล้วเสร็จ ยังไม่รู้ว่าสุดท้ายจะออกมาสวยสมกับที่ตั้งใจไว้รึเปล่า
เล่ามาก็ซะยาว จุดประสงค์จริงๆของกระทู้นี้ แค่เป็นการแชร์ประสบการณ์สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับการสร้างบ้าน ไม่ได้ต้องการตำหนิใครนะครับ ตัวจขกท.ก็เคยเห็นผรม.ดีๆมาก็เยอะ จะว่าไป ก็เป็นธรรมดาของทุกวงการที่ย่อมมีดีและไม่ดีคละเคล้าปะปนกันไปครับ แต่สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับโครงการนี้ อย่างน้อยยังนับเป็นโชคของเรา ที่ไม่เผลอไปแนะนำผรม.ตั้งแต่แรก ไม่งั้นป่านนี้คงมองหน้าเจ้าของบ้านไม่ติด และยังอาจเสียเครดิตอีกต่างหาก -*-
สุดท้าย เพื่อป้องกันหรือลดผลกระทบจากปัญหาผู้รับเหมาสำหรับผู้ที่จะสร้างบ้าน ทางจขกท.พอจะมีข้อแนะนำจากประสบการณ์ดังนี้ครับ
1. เวลาเลือกผรม. นอกเหนือจากเรื่องฝีมือในการก่อสร้างแล้ว ให้พิจารณาเรื่องสภาพคล่องของผรม. เป็นหลักด้วยครับ สังเกตง่ายๆจากลักษณะการเบิกงวด ต้องงานเสร็จเนื้องานครบถ้วนครับ ถึงจะขอเบิก ไม่ใช่ขอ advance ก่อนตลอด 55  หรืออาจลองสอบถามจากเจ้าของบ้านที่เคยใช้บริการผรม.เจ้าที่เราเล็งไว้ดูก่อนว่าประวัติเค้าเป็นยังไงบ้าง
2. แบ่งงวดงานให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้(แต่ต้องสอดคล้องกับกระบวนการ และขั้นตอนการก่อสร้างด้วยนะครับ)ซึ่งขั้นตอนนี้อาจต้องอาศัยคนที่รู้เพื่อช่วยวางแผนให้ ทั้งงานโครงสร้าง, งานสถาปัตย์ และงานระบบที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เพื่อลดความเสียเปรียบที่อาจเกิดขึ้นของเราในฐานะเจ้าของบ้านที่จะมีต่อผรม. ให้เหลือเงินที่จะจ่ายต่องวดให้น้อยๆ และต้องงานเสร็จเท่านั้นถึงจะมีสิทธิเบิก อันนี้สำคัญมาก 55 ห้ามใจอ่อน ไม่งั้นอาจโดนชิ่ง
ประสบการณ์ที่นำมาแชร์ในวันนี้ ทางจขกท. ต้องการให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ที่คิดจะสร้างบ้าน เพื่อให้รู้เท่าทัน และไม่ตกเป็นเหยื่อ หรือเสียเปรียบจนเกินไป สำหรับกระทู้นี้คงมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย และหากเพื่อนๆพี่ๆคนไหนมีประสบการณ์ดีๆที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องผรม.นอกเหนือจากนี้ ก็มาแชร์กันเป็นวิทยาทานนะครับ ขอบคุณครับ